พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
แผ่นปั๊มหลวงปู่...
แผ่นปั๊มหลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาละวัน หลังยันต์นกเล็ก ปี18ได้รับการพุทธาภิเษก โดยท่านพระอาจารย์ฝั้นและลูกศิษย์พระสายอาจารย์มั่น ที่วัดป่าสาละวัน นับเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยม หายากเช่นกัน
ท่านอาจารย์สิงห์เมื่อได้เข้าพบและสมัครตัวเป็นลูกศิษย์ ศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากรรมมัฎฐานจากท่านอาจารย์มั่น ได้แน่วแน่ที่จะปฏิบัติวิปัสสนากรรมมัฎฐานมิได้หยุดหรือท้อถอย และได้ติดตามท่านอาจารย์มั่นเดินธุดงค์ปฏิบัติกรรมมัฎฐานไปตามป่าช้า ตามถ้ำ เขาต่างๆ ไปเรื่อยๆ บำเพ็ญเพียรจนเกิดความชำนาญ รู้จักบังคับจิตของตน รู้วาระจิตตนเองและวาระจิตของผู้อื่นด้วย เกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริงจนเป็นที่ไว้วางใจของท่านอาจารย์มั่น ให้ทำการสอนลูกศิษย์พระเณรแทนในบางโอกาส ท่านอาจารย์มั่นได้มอบหมายให้ท่านอาจารย์สิงห์คอยควบคุมดูแลเณรในการประพฤติปฏิบัติทำสมาธิและเดินจงกรม ปรากฏว่า ท่านไม่ได้เดินตรวจควบคุมแต่อย่างใด ท่านเพียงแต่นั่งทำสมาธิหลับตาตรวจดู แต่ท่านอาจารย์สิงห์ก็สามารถทราบได้ว่า พระเณรองค์ไหนได้ปฏิบัติอย่างไรบ้าง องค์ใดยืน เดิน นั่ง นอนอย่างไร ตลอดไปถึงความนึกคิด ในวันรุ่งขึ้นท่านสามารถรายงานให้ท่านอาจารย์มั่นทราบได้ทุกองค์ และเมื่อสอบถามความจริงพระและเณรทุกองค์ต่างก็ยอมรับว่า เป็นจริงตามที่ท่านอาจารย์สิงห์รายงาน จนเป็นที่เคารพเกรงขามของพระเณรทุกองค์ ไม่กล้ากระทำกิจอันใดที่ผิด เพราะเกรงท่านอาจารย์สิงห์รู้ จนเป็นที่ไว้วางใจของท่านอาจารย์มั่น ได้มอบหน้าที่ให้เป็นผู้อบรมสั่งสอนพระเณรทั้งหมด
ในการสร้างวัดของท่านอาจารย์สิงห์และคณะ บางครั้งก็ถูกขัดขวางจากคนบางกลุ่ม เช่น เมื่อครั้งไปจัดสร้างวัดป่าทรงคุณ บริเวณป่ามะม่วง จังหวัดปราจีนบุรี มีนักเลงโตไม่พอใจ จนถึงจ้างคนมาลอบยิงท่านอาจารย์สิงห์ซึ่งกำลังเดินจงกรมอยู่ในป่าช้า แต่คนที่รับจ้างมายิงยกปืนยิงไม่ออก พอจะก้าวเท้าหนีก็ก้าวไม่ออก ท่านอาจารย์สิงห์จึงได้รู้ว่า ใครเป็นผู้จ้างวาน ท่านจึงได้อบรมสั่งสอนแนะผิดแนะชอบแล้วปล่อยตัวมือปืนไป ตอนเช้าท่านได้ออกบิณฑบาตไปที่บ้านคนที่เป็นคนจ้างมือปืนไปยิงท่าน เมื่อบุคคลทั้งหมดเห็นท่านอาจารย์สิงห์ก็ตกตะลึงยืนนิ่งเป็นใบ้ จนกระทั่งอาจารย์มหาปิ่นซึ่งไปด้วยบอกเตือน ท่านอาจารย์สิงห์จึงได้คลายอำนาจกระแสจิต คนเหล่านั้นต่างก้มกราบและขออภัยจากท่าน เสร็จแล้วต่างร่วมใจกันสร้างวัดให้เป็นวัดป่าทรงคุณ ตำบลดงพระราม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ลุล่วงด้วยดี
ปฏิปทาและขันติของท่านพระอาจารย์สิงห์
ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระอาจารย์มั่น ท่านอาจารย์สิงห์ได้ปฏิบัตกิจวัตรประจำไม่ได้ขาด ตอนเช้าทำวัตรสวดมนต์เสร็จ ท่านจะนำคณะออกบิณฑบาตแผ่บุญกุศลแก่ญาติโยม หลังจากนั้นท่านจะทำการอบรมพระภิกษุ สามเณรให้ปฏิบัติกรรมฐานทุกๆ วันมิให้ขาด
ตอนเย็นเมื่อกระทำวัตรสวดมนต์เสร็จ ท่านจะอบรมธรรมะแก้ปัญหาธรรมที่มีภิกษุสามเณรติดขัดจนเป็นที่เข้าใจ ตอนกลางคืน ท่านจะให้พระภิกษุ สามเณรนั่งสมาธิภาวนาทุกรูป ซึ่งปรากฏว่า ไม่มีใครกล้าหลีกเลี่ยง พอตอนเช้า ท่านก็จะเรียกพระภิกษุ สามเณรที่ไม่ปฏิบัติกรรมฐานมาว่ากล่าวตักเตือน ชี้ให้เห็นถึงความเสียหายต่างๆ จนเป็นที่ยำเกรงของคณะศิษย์ทุกรูป
ท่านอาจารย์สิงห์ฉันหนเดียว และฉันเฉพาะในบาตรเป็นวัตรตลอดชีวิต ท่านถือผ้าไตรจีวรสามผืนเป็นวัตร
ท่านถือผ้านิสีทนะปูนั่งเป็นวัตร คือ จะนั่ง ณ ที่ใดก็ตาม ท่านต้องปูผ้านิสีทนะของท่านก่อนจึงจะนั่งทับลงไป การปฏิบัติต่างๆ ท่านอาจารย์สิงห์ถือเคร่งครัดมาก
ด้านความเพียร ท่านอาจารย์สิงห์ บางครั้งจะเดินจงกรมตลอดวัน นั่งสมาธิตลอดคืน บางทีท่านจะสั่งลูกศิษย์ คือ พระครูใบฎีกาณรงค์ชัย รักขิตสีโล ให้ปฏิบัติท่าน โดยท่านจะเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๕ วันบ้าง ๗ วันบ้าง ซึ่งก็หมายความว่าท่านได้อดอาหารเป็นเวลา ๕ – ๗ วันไปด้วย ร่างกายของท่านก็มิได้มีอะไรผิดปรกติ ยังเห็นท่านปฏิบัติกรรมฐานเดินจงกรมทุกวี่วันมิได้ขาด
ครั้งหนึ่ง ตอนที่ท่านอาจารย์สิงห์นอนป่วยอยู่ ท่านพระครูใบฎีกาณรงค์ชัย ได้เข้าเวรรักษาพยาบาลปรนนิบัติท่าน ขณะกำลังนั่งทำงานพัดอยู่ กลดด้ามเหล็ด หนักร่วม ๓๐ กิโลกรัมตกลงมากระแทกหน้าอกของท่านอาจารย์สิงห์เป็นรอยช้ำ แต่ท่านมิได้ปริปากพูดแต่ประการใด เพียงแต่นอนมองทำตาปริบๆ เท่านั้น
และในครั้งเมื่อเกิดการเจ็บป่วยมีทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัส ท่านก็ไม่เคยปริปากบอกใคร เวลาเจ็บป่วยหนักๆ ลุกไม่ขึ้น เมื่อมีแขกมาเยี่ยม ถามว่า ท่านอาจารย์สบายดีหรือ ท่านก็ตอบไปเพียงว่า สบายดีอยู่ ทั้งๆ ที่เจ็บปวดอย่างที่คนธรรมดาสามัญจะทนไม่ได้ ท่านอาจารย์สิงห์เป็นมะเร็งเกี่ยวกับลำไส้ ช่วงระยะเวลาช่วงหลังของชีวิต ท่านถูกโรคร้ายนี้คุกคามตลอดเวลา เมื่อตอนงานผูกพัทธสีมา วัดป่าสาละวัน ท่านกำลังทำสังฆกรรมในโบสถ์ พอดีกับเวลานั้นโรคมะเร็งของท่านกำเริบเจ็บปวดจนกระดิกตัวไม่ได้ ท่านก็ไม่ยอมปริปากบอกให้ใครรู้ จนเสร็จจากสังฆกรรมเรียบร้อย พระสงฆ์องค์อื่นลุกออกไปเกือบหมดแล้ว ท่านอาจารย์สิงห์จึงได้บอกกับพระครูใบฎีกาณรงค์ชัยว่า “ขณะนี้ในท้องของเราไม่ปรกติเสียแล้ว” ท่านพูดเพียงแค่นี้เอง แต่ความไม่ปรกติของท่านนั้น ทำเอาท่านลุกไม่ขึ้น ต้องหามส่งโรงพยาบาลทันที นับเป็นปฏิปทาในด้านความมีขันติของท่านพระอาจารย์สิงห์อย่างยิ่ง
ภายหลังท่านอาจารย์สิงห์ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฏฯ จนถึงเข้าพรรษา ในปี พ.ศ.๒๕๐๔ ลูกศิษย์ได้รับท่านมาพักรักษาตัวที่วัดป่าสาละวันตามเจตนาของท่าน ดูเหมือนท่านจะรู้วาระของท่านอย่างแน่ชัด ท่านได้จัดการสั่งสอนศิษย์และภิกษุ สามเณร มอบงานหน้าที่ต่างๆ จนเป็นที่เรียบร้อย จวบวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๔ ท่านก็มรณภาพด้วยอาการสงบ ท่ามกลางลูกศิษย์ที่เฝ้าดูแล ยังความเศร้าสลดต่อลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างยิ่ง วันมรณภาพของท่าน ท่านอาจารย์สิงห์ได้นิมิตบอกมายังพระครูในฎีกาณรงค์ชัย ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่วัดป่าทรงคุณ จ.ปราจีนบุรี พระครูใบฎีกาณรงค์ชัย จึงรีบเดินทางมายังวัดป่าสาละวัน แต่ก็มาช้า ปรากฏว่า ท่านอาจารย์สิงห์ได้มรณภาพเสียก่อนแล้วประมาณ ๒ ชั่วโมง ท่านอาจารย์สิงห์มรณภาพเวลาประมาณ ๑๐.๒๐ น. ซึ่งเป็นการสูญเสียเกจิอาจารย์องค์สำคัญของพระกรรมฐาน ในสายท่านพระอาจารย์มั่น ผู้ที่สำคัญที่สุดทีเดียว
สิ่งมหัศจรรย์
หลังจากที่ท่านมรณภาพ ลูกศิษย์จะนำศพของท่านจากกุฏิลงศาลาไปสรงน้ำ พอเจ้าหน้าที่ยกศพขึ้นจากที่ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีเค้าเลย แต่พอวางศพท่านลงถึงพื้นฝนหยุดตกทันที พอหมอนำยามาฉีดกันศพเน่าก็เกิดฉีดไม่เข้าอีก เข็มฉีดยาหักไปสามเล่ม เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาต้องหาดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมาและขออนุญาต พอแทงเข็มเข้าก็ยาไม่เดินอีก ต้องจัดหาดอกไม้ขัน ๕ มาบอกกล่าวอีก และเกิดปาฏิหารย์ไม่ต้องเร่งดันเข็ม ยาวิ่งเข้าเองเลย ทำให้ศิษย์ที่อยู่ในบริเวณยกมือท่วมหัวสาธุกันทั่วหน้า เป็นบุญบารมีของท่านอย่างแท้จริง เมื่อตกแต่งศาลาหลังต่ำเสร็จจะนำศพท่านไปสรงน้ำและตั้งศพท่าน พอเจ้าหน้าที่ยกศพท่านขึ้น ฝนก็ตกลงมาอีก แต่พอถึงที่วางศพท่านลง ฝนก็หยุดทันที ยังความแปลกประหลาดใจแกผู้พบเห็นกันทั่วหน้า
เมื่อถึงงานพระราชทานเพลิงศพของท่านอาจารย์สิงห์ก็เช่นกัน พอเจ้าหน้าที่ยกศพของท่านขึ้น ฝนก็เริ่มตกปรอยๆ ได้นำศพของท่านแห่รอบศาลาเมรุสามรอบแล้วนำขึ้นตั้งบนเมรุ พอวางศพท่านลง ฝนก็หยุดตกทันที ในวันพระราชทานเพลิงศพของท่านพระอาจารย์สิงห์ มีผู้คนจากทั่วสารทิศ มีคณะศิษย์ทั้งฆราวาสและสามเณรรวมทั้งภิกษุในสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาร่วมชุมนุมกันครบถ้วน จนบริเวณวัดป่าสาละวันแน่นขนัด คับแคบไปหถนัดตา ผู้คนต่างออกปากกล่าวขวัญว่า “ช่างเป็นบุญญาธิการของท่านอาจารย์สิงห์อย่างแท้จริง”
ผู้เข้าชม
1490 ครั้ง
ราคา
โทรถาม
สถานะ
ขายแล้ว
โดย
ตุ๊กวังสามหมอ
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
ร้านค้า
-
โทรศัพท์
0876394506
ไอดีไลน์
ตุ๊กสามหมอ
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 748-2-32811-5
เหรียญรุ่นแรก ภูเขาหลวง หลวงป
เหรียญหลวงปู่บุญพิน รุ่นแรก
เหรียญหลวงพ่อเจริญ หมูทองคำ เน
สมเด็จหลังยันต์ หลวงปู่ขาว พุท
หยดน้ำหลวงปู่พิบูลย์ เนื้อเงิน
หลวงปู่ขาว วดป่าคูณคำ นวะ หมาย
พระใส 36 พิมพ์ใหญ่
สมเด็จหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต
เหรียญเศรษฐี หลวงปู่อ่อนสาฯ พร
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
sakunchart
หริด์ เก้าแสน
trairat
Pichet Pkc
บ้านพระหลักร้อย
บ้านพระสมเด็จ
ปลั๊ก ปทุมธานี
เปียโน
Erawan
kaew กจ.
เจริญสุข
termboon
เอี่ยวเสรีไทย
kotbangphlat79
Tui Amulets
แจ็ค วัดไตรสามัคคี
fuchoo18
someman
NongBoss
hra7215
ณัฐ อัมพวา
Noom1150
โกหมู
เทพจิระ
เนินพระ99
tintin
hopperman
ด้วง เกิดผล
sorasak
เก่ง บุรีรัมย์
ผู้เข้าชมขณะนี้ 2009 คน
เพิ่มข้อมูล
แผ่นปั๊มหลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาละวัน หลังยันต์นกเล็ก ปี18ได้รับการพุทธาภิเษก โดยท่านพระอาจารย์ฝั้นและลูกศิษย์พระสายอาจารย์มั่น ที่วัดป่าสาละวัน นับเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยม หายากเช่นกัน
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
แผ่นปั๊มหลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาละวัน หลังยันต์นกเล็ก ปี18ได้รับการพุทธาภิเษก โดยท่านพระอาจารย์ฝั้นและลูกศิษย์พระสายอาจารย์มั่น ที่วัดป่าสาละวัน นับเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยม หายากเช่นกัน
รายละเอียด
ท่านอาจารย์สิงห์เมื่อได้เข้าพบและสมัครตัวเป็นลูกศิษย์ ศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากรรมมัฎฐานจากท่านอาจารย์มั่น ได้แน่วแน่ที่จะปฏิบัติวิปัสสนากรรมมัฎฐานมิได้หยุดหรือท้อถอย และได้ติดตามท่านอาจารย์มั่นเดินธุดงค์ปฏิบัติกรรมมัฎฐานไปตามป่าช้า ตามถ้ำ เขาต่างๆ ไปเรื่อยๆ บำเพ็ญเพียรจนเกิดความชำนาญ รู้จักบังคับจิตของตน รู้วาระจิตตนเองและวาระจิตของผู้อื่นด้วย เกิดปัญญารู้แจ้งเห็นจริงจนเป็นที่ไว้วางใจของท่านอาจารย์มั่น ให้ทำการสอนลูกศิษย์พระเณรแทนในบางโอกาส ท่านอาจารย์มั่นได้มอบหมายให้ท่านอาจารย์สิงห์คอยควบคุมดูแลเณรในการประพฤติปฏิบัติทำสมาธิและเดินจงกรม ปรากฏว่า ท่านไม่ได้เดินตรวจควบคุมแต่อย่างใด ท่านเพียงแต่นั่งทำสมาธิหลับตาตรวจดู แต่ท่านอาจารย์สิงห์ก็สามารถทราบได้ว่า พระเณรองค์ไหนได้ปฏิบัติอย่างไรบ้าง องค์ใดยืน เดิน นั่ง นอนอย่างไร ตลอดไปถึงความนึกคิด ในวันรุ่งขึ้นท่านสามารถรายงานให้ท่านอาจารย์มั่นทราบได้ทุกองค์ และเมื่อสอบถามความจริงพระและเณรทุกองค์ต่างก็ยอมรับว่า เป็นจริงตามที่ท่านอาจารย์สิงห์รายงาน จนเป็นที่เคารพเกรงขามของพระเณรทุกองค์ ไม่กล้ากระทำกิจอันใดที่ผิด เพราะเกรงท่านอาจารย์สิงห์รู้ จนเป็นที่ไว้วางใจของท่านอาจารย์มั่น ได้มอบหน้าที่ให้เป็นผู้อบรมสั่งสอนพระเณรทั้งหมด
ในการสร้างวัดของท่านอาจารย์สิงห์และคณะ บางครั้งก็ถูกขัดขวางจากคนบางกลุ่ม เช่น เมื่อครั้งไปจัดสร้างวัดป่าทรงคุณ บริเวณป่ามะม่วง จังหวัดปราจีนบุรี มีนักเลงโตไม่พอใจ จนถึงจ้างคนมาลอบยิงท่านอาจารย์สิงห์ซึ่งกำลังเดินจงกรมอยู่ในป่าช้า แต่คนที่รับจ้างมายิงยกปืนยิงไม่ออก พอจะก้าวเท้าหนีก็ก้าวไม่ออก ท่านอาจารย์สิงห์จึงได้รู้ว่า ใครเป็นผู้จ้างวาน ท่านจึงได้อบรมสั่งสอนแนะผิดแนะชอบแล้วปล่อยตัวมือปืนไป ตอนเช้าท่านได้ออกบิณฑบาตไปที่บ้านคนที่เป็นคนจ้างมือปืนไปยิงท่าน เมื่อบุคคลทั้งหมดเห็นท่านอาจารย์สิงห์ก็ตกตะลึงยืนนิ่งเป็นใบ้ จนกระทั่งอาจารย์มหาปิ่นซึ่งไปด้วยบอกเตือน ท่านอาจารย์สิงห์จึงได้คลายอำนาจกระแสจิต คนเหล่านั้นต่างก้มกราบและขออภัยจากท่าน เสร็จแล้วต่างร่วมใจกันสร้างวัดให้เป็นวัดป่าทรงคุณ ตำบลดงพระราม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ลุล่วงด้วยดี
ปฏิปทาและขันติของท่านพระอาจารย์สิงห์
ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระอาจารย์มั่น ท่านอาจารย์สิงห์ได้ปฏิบัตกิจวัตรประจำไม่ได้ขาด ตอนเช้าทำวัตรสวดมนต์เสร็จ ท่านจะนำคณะออกบิณฑบาตแผ่บุญกุศลแก่ญาติโยม หลังจากนั้นท่านจะทำการอบรมพระภิกษุ สามเณรให้ปฏิบัติกรรมฐานทุกๆ วันมิให้ขาด
ตอนเย็นเมื่อกระทำวัตรสวดมนต์เสร็จ ท่านจะอบรมธรรมะแก้ปัญหาธรรมที่มีภิกษุสามเณรติดขัดจนเป็นที่เข้าใจ ตอนกลางคืน ท่านจะให้พระภิกษุ สามเณรนั่งสมาธิภาวนาทุกรูป ซึ่งปรากฏว่า ไม่มีใครกล้าหลีกเลี่ยง พอตอนเช้า ท่านก็จะเรียกพระภิกษุ สามเณรที่ไม่ปฏิบัติกรรมฐานมาว่ากล่าวตักเตือน ชี้ให้เห็นถึงความเสียหายต่างๆ จนเป็นที่ยำเกรงของคณะศิษย์ทุกรูป
ท่านอาจารย์สิงห์ฉันหนเดียว และฉันเฉพาะในบาตรเป็นวัตรตลอดชีวิต ท่านถือผ้าไตรจีวรสามผืนเป็นวัตร
ท่านถือผ้านิสีทนะปูนั่งเป็นวัตร คือ จะนั่ง ณ ที่ใดก็ตาม ท่านต้องปูผ้านิสีทนะของท่านก่อนจึงจะนั่งทับลงไป การปฏิบัติต่างๆ ท่านอาจารย์สิงห์ถือเคร่งครัดมาก
ด้านความเพียร ท่านอาจารย์สิงห์ บางครั้งจะเดินจงกรมตลอดวัน นั่งสมาธิตลอดคืน บางทีท่านจะสั่งลูกศิษย์ คือ พระครูใบฎีกาณรงค์ชัย รักขิตสีโล ให้ปฏิบัติท่าน โดยท่านจะเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๕ วันบ้าง ๗ วันบ้าง ซึ่งก็หมายความว่าท่านได้อดอาหารเป็นเวลา ๕ – ๗ วันไปด้วย ร่างกายของท่านก็มิได้มีอะไรผิดปรกติ ยังเห็นท่านปฏิบัติกรรมฐานเดินจงกรมทุกวี่วันมิได้ขาด
ครั้งหนึ่ง ตอนที่ท่านอาจารย์สิงห์นอนป่วยอยู่ ท่านพระครูใบฎีกาณรงค์ชัย ได้เข้าเวรรักษาพยาบาลปรนนิบัติท่าน ขณะกำลังนั่งทำงานพัดอยู่ กลดด้ามเหล็ด หนักร่วม ๓๐ กิโลกรัมตกลงมากระแทกหน้าอกของท่านอาจารย์สิงห์เป็นรอยช้ำ แต่ท่านมิได้ปริปากพูดแต่ประการใด เพียงแต่นอนมองทำตาปริบๆ เท่านั้น
และในครั้งเมื่อเกิดการเจ็บป่วยมีทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัส ท่านก็ไม่เคยปริปากบอกใคร เวลาเจ็บป่วยหนักๆ ลุกไม่ขึ้น เมื่อมีแขกมาเยี่ยม ถามว่า ท่านอาจารย์สบายดีหรือ ท่านก็ตอบไปเพียงว่า สบายดีอยู่ ทั้งๆ ที่เจ็บปวดอย่างที่คนธรรมดาสามัญจะทนไม่ได้ ท่านอาจารย์สิงห์เป็นมะเร็งเกี่ยวกับลำไส้ ช่วงระยะเวลาช่วงหลังของชีวิต ท่านถูกโรคร้ายนี้คุกคามตลอดเวลา เมื่อตอนงานผูกพัทธสีมา วัดป่าสาละวัน ท่านกำลังทำสังฆกรรมในโบสถ์ พอดีกับเวลานั้นโรคมะเร็งของท่านกำเริบเจ็บปวดจนกระดิกตัวไม่ได้ ท่านก็ไม่ยอมปริปากบอกให้ใครรู้ จนเสร็จจากสังฆกรรมเรียบร้อย พระสงฆ์องค์อื่นลุกออกไปเกือบหมดแล้ว ท่านอาจารย์สิงห์จึงได้บอกกับพระครูใบฎีกาณรงค์ชัยว่า “ขณะนี้ในท้องของเราไม่ปรกติเสียแล้ว” ท่านพูดเพียงแค่นี้เอง แต่ความไม่ปรกติของท่านนั้น ทำเอาท่านลุกไม่ขึ้น ต้องหามส่งโรงพยาบาลทันที นับเป็นปฏิปทาในด้านความมีขันติของท่านพระอาจารย์สิงห์อย่างยิ่ง
ภายหลังท่านอาจารย์สิงห์ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฏฯ จนถึงเข้าพรรษา ในปี พ.ศ.๒๕๐๔ ลูกศิษย์ได้รับท่านมาพักรักษาตัวที่วัดป่าสาละวันตามเจตนาของท่าน ดูเหมือนท่านจะรู้วาระของท่านอย่างแน่ชัด ท่านได้จัดการสั่งสอนศิษย์และภิกษุ สามเณร มอบงานหน้าที่ต่างๆ จนเป็นที่เรียบร้อย จวบวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๔ ท่านก็มรณภาพด้วยอาการสงบ ท่ามกลางลูกศิษย์ที่เฝ้าดูแล ยังความเศร้าสลดต่อลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างยิ่ง วันมรณภาพของท่าน ท่านอาจารย์สิงห์ได้นิมิตบอกมายังพระครูในฎีกาณรงค์ชัย ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่วัดป่าทรงคุณ จ.ปราจีนบุรี พระครูใบฎีกาณรงค์ชัย จึงรีบเดินทางมายังวัดป่าสาละวัน แต่ก็มาช้า ปรากฏว่า ท่านอาจารย์สิงห์ได้มรณภาพเสียก่อนแล้วประมาณ ๒ ชั่วโมง ท่านอาจารย์สิงห์มรณภาพเวลาประมาณ ๑๐.๒๐ น. ซึ่งเป็นการสูญเสียเกจิอาจารย์องค์สำคัญของพระกรรมฐาน ในสายท่านพระอาจารย์มั่น ผู้ที่สำคัญที่สุดทีเดียว
สิ่งมหัศจรรย์
หลังจากที่ท่านมรณภาพ ลูกศิษย์จะนำศพของท่านจากกุฏิลงศาลาไปสรงน้ำ พอเจ้าหน้าที่ยกศพขึ้นจากที่ ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีเค้าเลย แต่พอวางศพท่านลงถึงพื้นฝนหยุดตกทันที พอหมอนำยามาฉีดกันศพเน่าก็เกิดฉีดไม่เข้าอีก เข็มฉีดยาหักไปสามเล่ม เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาต้องหาดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมาและขออนุญาต พอแทงเข็มเข้าก็ยาไม่เดินอีก ต้องจัดหาดอกไม้ขัน ๕ มาบอกกล่าวอีก และเกิดปาฏิหารย์ไม่ต้องเร่งดันเข็ม ยาวิ่งเข้าเองเลย ทำให้ศิษย์ที่อยู่ในบริเวณยกมือท่วมหัวสาธุกันทั่วหน้า เป็นบุญบารมีของท่านอย่างแท้จริง เมื่อตกแต่งศาลาหลังต่ำเสร็จจะนำศพท่านไปสรงน้ำและตั้งศพท่าน พอเจ้าหน้าที่ยกศพท่านขึ้น ฝนก็ตกลงมาอีก แต่พอถึงที่วางศพท่านลง ฝนก็หยุดทันที ยังความแปลกประหลาดใจแกผู้พบเห็นกันทั่วหน้า
เมื่อถึงงานพระราชทานเพลิงศพของท่านอาจารย์สิงห์ก็เช่นกัน พอเจ้าหน้าที่ยกศพของท่านขึ้น ฝนก็เริ่มตกปรอยๆ ได้นำศพของท่านแห่รอบศาลาเมรุสามรอบแล้วนำขึ้นตั้งบนเมรุ พอวางศพท่านลง ฝนก็หยุดตกทันที ในวันพระราชทานเพลิงศพของท่านพระอาจารย์สิงห์ มีผู้คนจากทั่วสารทิศ มีคณะศิษย์ทั้งฆราวาสและสามเณรรวมทั้งภิกษุในสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต มาร่วมชุมนุมกันครบถ้วน จนบริเวณวัดป่าสาละวันแน่นขนัด คับแคบไปหถนัดตา ผู้คนต่างออกปากกล่าวขวัญว่า “ช่างเป็นบุญญาธิการของท่านอาจารย์สิงห์อย่างแท้จริง”
ราคาปัจจุบัน
โทรถาม
จำนวนผู้เข้าชม
1527 ครั้ง
สถานะ
ขายแล้ว
โดย
ตุ๊กวังสามหมอ
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
URL
-
เบอร์โทรศัพท์
0876394506
ID LINE
ตุ๊กสามหมอ
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารไทยพาณิชย์ / 748-2-32811-5
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี